หมวดหมู่: ประวัติศาสตร์

ยุคสยามใหม่ทำไมต้องเก็บเงินรัชชูปการในรัชสมัยรัชกาลที่6

เมื่อปี พ.ศ.2472ประชากรสยามมีประมาณ11ล้านคนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ไม่ใช่เล็กๆแล้วแต่การใช้สิทธิหรือ การมีปากเสียงเพียงอย่างเดียวของราษฎรก็คือการถวายฎีกาให้พระเจ้าอยู่หัวเราเป็นชาวนา เรามีความเดือดร้อนในเรื่องภาษีอากรหรือว่าที่ดินทำกินเราสามารถฎีกากับพระมหากษัตริย์ได้โดยตรงและจะมีข้าราชการตรวจสอบเรียกว่ากรรมการศาลฎีกาคอยคัดแยกฎีกาให้เข้ากับความเดือดร้อนตามหมวดหมู่ถ้าไม่เข้าหมวดหมู่ฎีกาของเราก็อาจจะไปไม่ถึงไหน

ส่วนคนที่เขียนก็จะต้องเขียนให้มันถูกต้องตามราชการกำหนดต้องรู้ตัวเองว่าเรืองจองตนเป็นเรื่องที่เดือดร้อนจริงๆถึงจะต้องแจ้งใครแจ้งแล้วราชการบอกว่าเป็นความเท็จคนแจ้งก็จะมีโทษไปอีกแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังเขียนอ่านไม่ได้ต้องพึ่งคนที่เรียกว่าพวกหัวหมอ

ซึ่งเป็นทนายแบบจารีต หมายถึงในยุคที่ยังไม่มีมหาวิทยาลัยคนที่มีความรู้เขียนหนังสือได้ในบางคนมารับจ้างทำงานคล้ายทนายนั่นเองหรือจะต้องพึ่งพาพวกผู้ใหญ่และหัวหน้าชาวนาเพื่อเขียนฎีกาขึ้นมา

ซึ่งมันไม่มีอะไรรับประกันว่าปัญหานั้นจะได้รับการตอบสนองจากผู้มีอำนาจประกอบกับในยุคนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าราชการหน่วยงานไหนทำนโยบายพัฒนาการเกษตรยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่าธนาคารเพื่อการเกษตรที่คอยให้เกษตรกรกู้เงินเพื่อการประกอบอาชีพแบบในปัจจุบันแต่กลับมีภาษีอากรจำนวนมากและทับซ้อนกันเอง เช่น มีอากรค่านาข้าว อากรนาเกลือ มีอากรสมพัตสร เป็นภาษีต้นไม้ที่ให้ผลผลิตและถึงจะเป็นช่วงที่เลิกทาสมานานแล้วมีการยกเลิกค่าส่วยแต่ในยุคสยามใหม่นี้

ได้มีการเก็บเงินค่าที่เรียกว่า เงินรัชชูปการตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่6เป็นเงินอากรแบบหนึ่งที่ต้องจ่ายเกือบทุกคนยกเว้นอาชีพทางศาสนาทหาร ตำรวจ กำนัน ผุ้ใหญ่บ้าน และ คนที่ “ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า” ให้ไม่ต้องเก็บ

โดยเขียนกฎหมายกำหนดเอาไว้ว่าชายฉกรรจ์อายุ18-60ปีต้องจ่ายเงินถวายหลวง6บาทต่อปีคล้ายกับส่วยที่ต้องจ่ายถ้าไม่มาเกณฑ์เป็นทหารหรือเป็นแรงงาน

ซึ่งมันก็คือส่วยเหมือนสมัยก่อนนี่เองและด้วยความที่เป็นกฎหมายในสมัยก่อนก็ไม่มีการเขียนขยายความว่าชายฉกรรจ์ที่ว่าหมายถึงผู้ชายทุกคนหรือเปล่าปล่อยทิ้งไว้ให้อยู่ในฐานที่เข้าใจกันเองและไม่ว่าจะสมัยไหนชาวนาก็จะมี3แบบด้วยกันก็คือ หนึ่ง ชาวนาที่มีนาเป็นของตัวเอง สอง ชาวนาที่เช่านาเขาทำซึ่งได้มีจำนวนมากกว่าแบบแรก และ แบบที่สามก็คือ คนที่เช่านาไม่ไหวอาจจะเพราะนาล่มหรือขาดทุนมากเกินไปก็คือชาวนาที่ไม่มีอะไรเลยพอไม่มีเงินจะเสียภาษีสิ่งที่รัฐสยามจัดการกับคนที่ไม่มีเงินจ่ายภาษีก็คือยึดที่ดินขายทอดตลาด

ถ้าไม่มีจริงๆก็จะจับไปทำงานโยธาและคิดค่าแรงแทนจำนวนเงินภาษีที่ไม่ได้จ่าย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  dewabet

ประวัติวัดห้วยลึก

วันนี้เราก็จะมาพูดถึงในสถานที่หนึ่ง ซึ่งเจ้าสถานที่แห่งนี้หากทุกคนได้ขับรถมาจากกรุงเทพลงใต้หรือว่าจากทางภาคใต้ขึ้นมาทางกรุงเทพก็จะพบเห็นกับสิ่งๆนี้จะตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั่นเอง นั่นก็คือ หงส์สีทองขนาดใหญ่ของวัดห้วยลึก นี้เอง 

ซึ่งเจ้าหงส์ตัวนี้ก็ได้มีประวัติความเป็นมาที่หลากหลายเอามากๆเลยและวันนี้เราก็ได้ไปหาข้อมูลเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับตำนานหงส์สีทองตัวนี้เอามาให้ทุกคนได้อ่านกันแต่เราต้องขอบอกก่อนเลยว่าต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านให้ดีๆเพราะเรื่องเหล่านี้มันเป็นเพียงเรื่องเล่าต่อกันมามันๆม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าสิ่งนี้มันจะเป็นเรื่องจริง

โดยที่เริ่มแรกเลยเราก็จะพูดถึงในส่วนของเรื่องในความเป็นมาของอวัดห้วยลึกกันก่อนเลยว่า ในอดีตของวัดห้วยลึกตั้งอยู่ที่บ้านห้วยลึกตําบลนาหูกวาง อําเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่30มิถุนายน 2523 เดิมที่แล้วก่อนที่จะมาเป็นวัดห้วยลึก สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสำนักสงฆ์ที่มีชื่อว่าสำนักสงฆ์ห้วยหงส์ 

ซึ่งจุดเด่นของวัดนั้นก็จะมีหงส์ตัวขนาดใหญ่ที่ได้ตั้งอยู่ตรงหน้าวัดนี่แหละ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าหงส์ตัวขนาดใหญ่นี้มันอาจจะมีความสอดคล้องกับชื่อสำนักสงฆ์ในอดีตหลายๆคนที่ได้ขับรถไปเส้นเพชรเกษมเพื่อที่จะลงใต้หรือจากทางใต้ขึ้นมาก็จะยึดเอาสงห์นี้เป็นจุดที่ใครหลายๆคนเรียกกันว่าประตูสู่แดนใต้เพราะ

เนื่องจากว่าถนนเส้นนี้ได้มีความยาวมากถ้าใครได้เคยลองขับรถลงใต้ก็จะรู้เลยว่าถนนเส้นนี้มันมีความยาวมากๆและหงส์ของวัดห้วยลึกมันก็จะเป้นจุดเด่นอีกสำคัญหนึ่งที่คอยบอกกับนักเดินทางว่าใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดของถนนเพชรเกษมแล้วแต่ถ้าผ่านไปผ่านมาในช่วงกลางคืนก็อาจจะหลอนได้เพราะว่าสงห์สีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมถนนเลย

เนื่องจากในอดีตสงห์ตัวนี้มันไม่ได้ถูกสร้างอยู่ที่ริมถนนตรงนี้แต่ว่ามันได้ถูกสร้างอยู่ห่างไกลจากริมถนนที่จริงถนนเส้นที่อยู่หน้าวัดห้วยลึกหรือตำแหน่งที่ตั้งสงห์เป็นตำแหน่งที่สร้างถนนขึ้นมาใหม่จึงทำให้สงห์ได้อยู่ใกล้ืกับถนนสงห์มันไม่ได้เดินแต่ทว่าถนนนั้นมันสร้างเข้ามาหารูปปั้นหงส์เอง

แต่ถ้าพูดถึงเรื่องหลอนในตำนานของสงห์ตัวนี้เราบอกเอาไว้เลยว่ามันก็อาจจะทำให้คุณหลอนพอสมควรเลยก็ว่าได้และเป็นเรื่องที่ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันๆมาจากรุ่นสู่รุ่น

 

สนับสนุนโดย  entaplay poker

ประวัติศาสตร์ของสงครามโลกสมัยพระเจ้าKing George vi ที่6

สงครามโลกครั้งที่2 ถือได้ว่าเป็นการกระทำทางทหารที่ได้มีการสร้างความเสียหายครั้งที่ใหญ่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งมันได้กินระยะเวลามาประมาณ6ปีที่ได้ฆ่าเอาชีวิตของผู้คนด้วยปอกกระสุนในการสังหารหมู่ในความหิวโหยโรคภัยไข้เจ็บและอาวุธมหา ปะไรกว่า80ล้านคนและความเจ็บปวดก็ได้แผ่ไปทั่วทุกตารางนิ้วนอกจากนี้ทางด้านเศรษฐกิจมันได้กลับเข้าสู่ในยุคมืด

ซึ่งมันจะทำให้ประชากรได้หมดขวัญกำลังใจและมันยังได้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างก็ได้หาความหมายของการเป็นมนุษย์มากที่สุดนอกจากนี้ยังได้มีผู้กำกับมากหน้าหลายตาต่างก็ได้นำเอาเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่2ได้นำเอามาถ่ายทอดในมุมมองที่มันแตกต่างกันออกไปบ้างก็ได้ชักจูงในส่วนของความคิดบ้างก็เพื่อความบันเทิงบ้างก็ได้แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามบ้าง

ก็ยกย่องนักรบที่สู้ตายอย่างไม่ถอยจนกว่าชัยชนะจะบังเกิดวันนี้เราจะขอพาทุกคนทบทวนประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่2ที่ได้ผ่านภาพยนตร์หลากหลายลดชาติเพื่อต้อนรับการมาของDarkest Hourเป็นชั่วโมงพลิกโลกภาพยนตร์ชีวประวัติสุดระทึกที่จะเผยช่วงเวลาฮิตที่สุดของWinston Churchillชายผู้ที่ได้อยู่ที่เบื้องหลังและยังได้ถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษผู้ที่พลิกเกมสงครามให้ฝ่ายสัมพันธมิตรคว้าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดในดลก

1กันยายน 1939 หลังจากการขึ้นครองราชของสมเด็จKing George vi ที่6แห่งสหราชอาณาจักรไปได้3ปีระบอมนาซีของฮิตเลอร์ได้ทวีคูณความรุนแรงได้รุกลานไปถึงประเทศโปรแลนด์ส่งผลให้รัฐบาลอังกษฤต้องยื่นคำขาดให้เยอรมันถอนทัพออกจากพื้นที่ในทันทีแต่มันก็ไร้สิ่งในการตอบรับจึงทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรจะต้องประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนีในวันที่3กันยายน

ในช่วงเวลาที่มืดมนเช่นนี้ประชาชนต่างก็ขวัญเสียและต้องการกำลังใจเป็นที่สุดหน้าที่จึงตกเป็นของประมุขที่จะต้องรับภารกิจกล่าวปลอบประชาชนให้ได้ลุกขึ้นมายืนยัดเคียงข้างในภาวะของสงครามแต่ในการที่จะพูดปลุกใจนั้นมันกลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยสำหรับสมเด็จพระเจ้าKing George vi ที่6เพราะพระองค์ไม่สามารถที่จะกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างชัดถ่อยชัดคำ เนื่องจากท่านทรงพระประชวรด้วย

โรคติดอ้างพูดไม่เป็นประโยคทุกครั้งที่ต้องอยู่ต่อหน้าผู้คนหรือในสถานการณ์ที่ตื่นเต้นThe Kings Speechสมเด็จพระเจ้าKing George vi ที่6จะต้องเขาชนะด้วยตัวของพระองค์เองเพื่อที่จะต้องรักษาอาการพูดติดอ้างให้ได้ด้วยพระองค์นั้นได้รับความช่วยเหลือจากนักแก้ไขในการพูดอย่างLionel Logueด้วย

วิธีที่สุดแปลกและดูเป็นกันเองตั้งแต่ก่อนที่พระองค์จะทรงขึ้นครองราชอย่างคาที่ประเทศต้องตกอยู่ในภาวะของสงครามมิตรภาพต่างชนชั้นแบบไร้เส้นแบ่งจึงได้เกิดขึ้นและด้วยแรงสนับสนุนจากหลายๆฝ่ายทางครอบครัวรัฐบาล

 

สนับสนุนโดย  ติดต่อ entaplay

ประวัติการเกิดของพระพุทธเจ้า

       พระพุทธเจ้าเป็นพระศาสดาของศาสนาพุทธคนไทยส่วนใหญ่นั้นนับถือศาสนาพุทธเป็นหลักดังนั้นเราจึงควรต้องเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าเอาไว้บ้างโดยปกติแล้วประวัติของพระพุทธเจ้านั้นมักจะมีการทำเป็นบทเรียนให้กับเด็กนักเรียนได้ศึกษาข้อมูลแบบคร่าวๆอย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาในช่วงตอนที่พระพุทธเจ้าเกิด

ซึ่งแต่เดิมนั้นก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเกิดนั้นพ่อแม่ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองเมืองกบิลพัสดุ์อยู่พ่อของพระพุทธเจ้านั้นชื่อว่าพระเจ้าสุทโธทนะและแม่ของพระพุทธเจ้านั้นชื่อว่าพระนางสิริมหามายาทั้งสองพระองค์นั้นต่างก็รักใคร่กันดีและปกครองบ้านเมืองด้วยดีเสมอมาอย่างไรก็ตามในช่วงที่พระนางสิริมหามายานั้นได้ทรงพระครรภ์พระองค์ได้มีการฝัน

ซึ่งในฝันของพระองค์นั้นพระองค์เห็นว่ามีช้างซึ่งเป็นสีขาวซึ่งเรามักจะเรียกกันว่าช้างเผือกโดยระบุว่าช้างเผือกนั้นมีทั้งหมดด้วยกัน 3 คู่ในฝันนั้นพระนางสิริมหามายาเห็นว่าช้างเผือกทั้ง 3 คู่นั้นได้ตรงเข้ามาที่ท้องของพระองค์หลังจากที่พระนางสิริมหามายาตื่นขึ้นก็ได้ส่งเล่าเรื่องนี้ให้กับพระสวามีได้ฟัง

ซึ่งวันรุ่งขึ้นก็ได้มีการเชิญโหราจารย์มาทำนายดวงชะตาความฝันให้กับพระนางสิริมหามายาซึ่งหนหลวงก็ได้บอกกับพระนางสิริมหามายาว่าพระนางนั้นจะได้บุตรซึ่งเป็นบทที่มีบุญญาธิการเป็นอย่างมากโดยบุตรของพระนางนั้นจะมีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลกแต่ต้องเลือกเอาว่าบุตรนั้นจะเลือกมีชื่อเสียงทางด้านไหนหากต้องการมือชื่อเสียงทางด้านโลกเจ้าชายองค์น้อยก็จะกลายเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีบุญญาธิการมีความเก่งกาจสามารถเอาชนะกับศัตรูภัยพาลได้และเป็นกษัตริย์ที่มีชื่อเสียงก้องโลก

ให้คนร่ำลือกันสืบต่อนานเท่านานแต่ถ้าหากว่าพระโอรสนั้นเลือกที่จะมีชื่อเสียงด้านทางธรรมก็จะกลายเป็นพระพุทธเจ้าที่มีคนสรรเสริญเยินยอและมีคนนับถืออย่างไรก็ตามทางด้านพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายาต้องการให้พระโอรสที่เกิดมานั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านในโลกเพราะฉะนั้นตั้งแต่ตอนที่ตั้งครรภ์พระองค์ก็มักจะดูแลประคบประหงมโอรสในครรภ์เป็นอย่างดี

และตอนที่พระพุทธเจ้าได้เกิดออกมานั้นเป็นช่วงจังหวะที่พระนางสิริมหามายานั้นเสด็จไปบริเวณสวนลุมพินีวันพอดีซึ่งในขณะนั้นพระองค์ได้ประทับอยู่ตรงบริเวณใต้ต้นสาละ ทำให้พระพุทธเจ้านั้นได้เกิดมาใต้ต้นสาละนั่นเองและมีตำนานพูดถึงเรื่องของการเกิดของพระพุทธเจ้าในช่วงนั้นด้วยว่าพระพุทธเจ้าเกิดมาปุ๊บก็สามารถเดินได้ทันทีโดยพระพุทธเจ้านั้นสามารถเดินได้ 7 ก้าวด้วยกันในครั้งแรกที่เกิดขึ้นมาเลยอีกทั้งยังมีการเล่าลือกันด้วยว่าทุกย่างก้าวที่พระพุทธเจ้าเดินนั้นจะมีดอกบัวมารองรับที่ฝ่าเท้าทุกครั้งซึ่งนี่คือเรื่องราวประวัติการเกิดของพระพุทธเจ้าที่เราจะสามารถศึกษาได้ในบทเรียนของเด็กชั้นประถม

 

สนับสนุนโดย  รหัสคูปอง rb88

ตำนานการสู้รบของทหารอังกฤษและเยอรมัน

บนเรียนทางภูมิศาสตร์

ภาพนี้ได้ถูกถ่ายขึ้นในปี1917ในสมรภูมิที่เมืองMessinesเป็นรูปภาพองทหารจำนวนมากที่ได้ยืนอยู่บนบริเวณหลุมระเบิดขนาดยักษ์ที่มีความกว้าง75เมตรและลึก12เมตร และยังได้กล่าวอีกว่าก่อนพื้นที่บริเวณนี้จะกลายเป็นหลุมเคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของกองทัพเยอรมันหลายหมื่นชีวิตทางประเทศอังกษฤได้ใช่เวลากว่าหนึ่งปีในการขุดอุโมงค์ลึก22อุโมงค์เพื่อฝังระเบิดหลายลูกรวมน้ำหนักกว่า400ตันใต้บริเวณเขตแดนของกองทัพเยอรมันทหานเยอรมันกว่าหมื่นนายถูกกำจัดโดยทันทีจากระเบิดครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีีมนุษย์สร้างขึ้นใมนยุคก่อนที่จะมีการประดิษฐ์ระเบิดปรมาณูก่อนเกิดการระเบิด นายพลชาร์ แฮร์ริงตันแม่ทัพภาคที่สองแห่งกองทัพอังกษฤได้กล่าวเอาไว้ว่าสุภาพบุรุษทุกท่าน แม้ว่าเราจะไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้ในพรุ่งนี้แต่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิศาสตร์ให้จงได้

การประกาศศักดา

เมื่อสงครามโลกครั้งที่1ได้จบลงแล้วในปี1918สหรัฐได้เฉลิมฉลองที่สามารถเอาชนะฝ่ายมหาอำนาจกลางได้จึงทำให้การรวมหมวกของทหารเยอรมันแล้วเรียงกันเป็นพีระมิด โดยตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟ Grand Central Terminal ในเมืองนิวยอร์ก หมวกPickelhaubesที่มีปลายแหลมจำนวน12,000ใบได้ถูกนำมาจัดแสดงตั้งเรียงเป็นทางยาวโดยมีธงและนกอินทรีย์ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งเพ่ือแสดงถึงชัยชนอันสมบูรณ์จึงมีรูปปั้นของ ไนกี เทพเจ้าแห่งชัยชนะตั้งอู่บนยอดของพีระมิดนั้น

เสียงแห่งความสงัด

ภาพของแถบคลื่นเสียงนี้เป็นเสียงของการระดมยิงปืนใหญ่อย่างบ้าคลั่งที่บริเวณทัพหน้าของฝ่ายอเมริกันที่ได้เกิดขึ้นเป็นเวลาไม่กี่วินาทีก่อนเวลา11นาฬิกาของวันสงบศึกกับเยอรมนีในวันที่11พฤศจิกายน1918 และอีกช่วงหลายวินาทีต่อมา เมื่อสิ้นเสียงปืนพบว่ามีแต่ความสงัดไร้ซึ่งเสียงใดๆเวลาสิ้นสุดของสงครามอย่างเป็นทางการถูกกำหนดให้เป็นช่วงเวลาตีห้าแต่ทว่าชั่วโมงต่อมาจากนั้นทหารกว่าหมื่นนายยังคงทำการสู้รบทำให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายอีกเป็นจำนวนมากเหล่าบังคับบัญชาในฝ่ายสัมพันธมิตรยังคงได้ใช้เวลาในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนสิ้นสงครามเพื่อสร้างอำนาจและการล้างแค้นเมื่อกองทัพเยอรมันจำนนในช่วง72ชั่วโมง

ก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญาสงบศึกเหล่าผู้บังคับบัญชาฝ่ายเยอรมันต่างวิงวอนขอให้ฝ่ายสัมพันธมิตรหยุดยิงลงแต่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดแห่งฝ่ายสัมพันธมิตร เฟอร์ดินองต์ ฟอช ยังคงออกคำสั่งต่อกองทัพว่าจะไล่ล่าและฝากรายดาบเอาไว้บนหลังของพวกเยอรมันเครื่องจักรสงครามซึ่งรูปภาพเหล่านี้ได้ถูกภ่ายขึ้นเมื่อในปี1916เป็นภาพที่ทหารอังกฤษกำลังยืนอยู่ที่กองกระสุนปืนใหญ่ขนาด105มม.กองมโหฬารได้แสดงให้เห็นถึงการสู้รบของทหารอังกฤษเพื่อต่อต้านทหารเใยอรมันในฝรั่งเศสที่เกิดขึ้นในทุกวันโดยทหารอังกฤษนั้นจะคอยซุ่มอยู่ในโคลนหลังลวดหนามเพื่อระดมยิงปืนใหญ่

 

สนับสนุนโดย  next88 มือถือ

สัญลักษณ์บนธนาบัติอลิลูมินาติ

วันนี้เราจะมาพูดถึงสัญลักษณ์บางอย่างที่มีอยู่ในสัญลักษณ์บนธนาบัติอลิลูมินาติ 

สำหรับลายละเอียดที่มีอยู่บนธนาบัติอย่างแรกเลยก็คือภาษาลาติที่เคยเขียนว่าNovus Ordo Seclorum ถ้าจะให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือระเบียบของโลกใหม่อันนี้มันก็คืออย่างแรกอันดับที่สองรหัสเลข666ๆที่อยู่ด้านหลังธนาบัติก็คือสัญลักษณ์ของสัตว์ร้ายและยังได้มีดวงตาอยู่ตรงกลางที่อย่ในสามเหลี่ยมบนยอดสุดของพีระมิดที่ยังต่อไม่เสร็จที่เขาได้เชื่อกันว่ากลุ่มอิลลูมินาติ

ที่มันกำลังจ้องมองโลกอยู่แต่อีกหนึ่งความหมายหนึ่งก็คือ ดวงตาของซาตานนั้นเอง โดยสามเหลี่ยมพีระมิคที่มีเครื่องหมายของอิลลูมินาติอยู่ก็ได้มีรายละเอียดที่มันดูน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่าNumerology หรือศาสตร์ทางตัวเลข ซึ่งได้เป็นองค์กรที่มีความเก่าแก่จากคัมภีร์ฮีบรูหรือว่าชาวยิวนั่นเองโดยได้มีการบอกเป็นโค้งของตัวหนังสือผ่านตัวเลข

ยกตัวอย่างเลข888มันจะมีความหมายว่าจิตใจที่สูงกว่าหรือจิตใจที่ศักดิ์สิทธิ์แต่รหัส666มันคือจิตใจที่มีความเกี่ยวข้องกับความตายหรือคำว่าซาตานนั้นเอง ส่วนที่น่าสนใจต่อมาก็คือส่วนที่อยู่ตรงตัวอักษรที่อยู่บนฐานพีระมิดที่เขียนตัวอักษรเอาไว้ว่าMDCCLXXVI ซึ่งถ้าเจว่าเรามองตรงๆแล้วมันอาจจะไม่มีความหมายแต่ถ้าเราได้เอาตัวอักษรเหล่านี้ไปแปลเป็นตัวเลข

ในโรมันจะแปลได้ดังนี้MDCคือ1,600CLXคือ160xviคือ16 เมื่อได้เอามารวมกันแล้วจะเป็น1,600บวก160บวก16ก็คือ1776 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ก็คือปีที่ลงนามประกาศอิสรภาพของอเมริกา เมื่อวันที่4กรกฎาคมปี1776นั่นเอง ในธนาบัติเพียงใบเดียวมันได้มีลายละเอียดที่ลงลึกถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของประเทศประเทศหนึ่งเลย

มันเป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ต่อมา ซึ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งอันก็คือ อินทรีย์ที่อยู่ทางด้านขวามือที่ได้เป็นสัญลักษณ์ในสมัยโบราณ ซึ่งงได้เป็นที่รู้จักกันในนามของนกฟีนิกซ์หรือว่านกอมตะนั่นเองและในปัจจุบันสัญลักษณ์นี้ได้ถูกนำเอาไปใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำทำเนียบของประธานาธิบดีสหรัฐเมริกาหรือทำเนียบขาวนั่นเองแต่ถ้าพูดถึงในเรื่องของกลุ่มอลิลูมินาติ

เราเชื่อว่าหลายๆคนที่ได้มีข้อมูลอยู่บ้างจะต้องพูดถึงกลุ่มFreemasonsแน่นอนสำหรับกลุ่มFreemasonsบางคนก็อาจจะนึกภาพไม่ออกถ้าใครที่ได้่เคยดูหนังของNational Treasureก็น่าจะเคยเห็นกันอยู่บ้างว่ากันว่าในสมาคมลับนี้ได้ทำงานกับกลุ่มอิลลูมินาติและได้มีส่วนรวมกับทุกๆเหตุการณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวบนโลกของเราเลยไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกหรือว่าสงครามต่างๆที่เราได้กล่าวไปข้างต้นโดยสมาคมFreemasonsได้ถูกก่อตั้งเพื่อปกป้องเพื่อการมีผู้นำประเทศที่นำผาไปอย่างไรทิศทาง

 

สนับสนุนโดย  next88 สมัคร

ประวัติความเป็นมาของบริษัท KFC 

KFC คือร้านขายไก่ทอดที่โด่งดังมากโดยไก่ทอดนี้นั้นจะมีความกรอบนอกนุ่มในโดยคนที่เป็นคนสร้างร้าน KFC ขึ้นมามีชื่อว่า ดี แซนเดอร์ส เขาเองเป็นคนที่สร้างร้าน KFC และเป็นคนที่คิดสูตรการทำให้ไก่นั้นมีรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร

โดยเจ้าของร้าน KFC คนนี้ได้เกิดเมื่อปีพ.ศ 2433 จัดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยเกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายนค่ะ โดยคุณลุงซันเดอร์เป็นคนที่ชอบในการทำอาหารมากเขาจึงรวบรวมเงินนำมาเปิดร้านที่ปั๊มน้ำมัน โดยร้านของเขานั้นก็มีชื่อเสียงอันโด่งดังเป็นอย่างมากทำให้เกือบทุกคนในที่แถวนั้นที่จะรู้จักเขาและไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักเขาโดยร้านของเขานั้นมีสูตร พิเศษที่ไม่มีใครสามารถที่จะทำตามได้เลยว่ากันว่า เท่านั้นได้ทำการใส่สมุนไพรอยู่ประมาณ 11 อย่างเข้าไปในบ้านสาลี

หลังจากนั้นก็นำไก่มา และนำไก่มาคลุก จากสมุนไพรและแป้งสาลีที่เขาได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยหลังจากนั้นเขาก็ได้นำพวกมันลงโทษและพบว่ามันนั้นมีรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใครนายกรัฐมนตรีได้ทำการแต่งตั้งให้ร้านของเขานั้นเป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในรัฐเคนตักกี้ แต่ไม่นาน ก็มีเหตุที่ทำให้ คุณแซนเดอร์ส จำเป็นที่จะต้องปิดร้านลงเนื่องจากไม่นานนักก็ได้มีการสร้างถนนเส้นใหม่

ขึ้นมาถ้าไม่มีคนเดินทางมาปั๊มน้ำมันแห่งนี้น้อยลงเยอะมากจนสุดท้ายเขาก็จำเป็นที่จะต้องปิดร้านในปั๊มน้ำมันของเขาไปแต่เมื่อเขาเดินทางไปที่เมืองอื่นเขาก็พบว่าทุกคนในอีกเมืองนึงนั้นรู้จักชื่อเสียงของเขากันทุกคนโดยภัตตาคารหลายๆแห่งขอให้เขานั้นได้ทำการบอกสูตรอาหารและทั้งสองจะเป็นหุ้นส่วนด้วยกัน

โดยเขานั้นก็มีคนสวยมากกว่า 600 กว่าคนเลยทีเดียวนั่นทำให้เขานั้นวุ่นวายมากจนไม่สามารถที่จะทำทุกอย่างได้ภายในทีเดียวเขาจึงตัดสินใจว่าเขานั้นจะทำการขายบริษัทรวมถึงแบรนด์ของเขาเองให้กับนักลงทุนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าจอห์น วาย บราวน์ จูเนียร์ โดยหลังจากนั้นผ่านไปไม่นานเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมปีพ.ศ๒๕๑๔เจ้าของร้าน KFC ก็ได้ทำการซื้อธุรกิจคืนจากกลุ่มนักธุรกิจที่เขาได้เคยขายไปให้ด้วยหลังจากนั้นไม่นานนะเขาก็ได้เสียชีวิตลงจากอายุประมาณ 90 ปี

รวมถึงร่างกายของเขาก็อ่อนแอมากจากการจัดการงานมากกว่า 350 สาขาทั่วโลกไทยใต้คนบังคับคนเดียวเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าตัวเจ้าของร้าน KFC นั้นจะได้เสียชีวิตไปแล้วแต่ท่านก็ยังคงมีลูกหลานอยู่ดังนั้นก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตทำได้บอกสูตรลับของตระกูลให้กับลูกหลานหลังจากนั้นลูกหลานก็นำไปเปิดบริษัทดูแลต่อจากคุณลุงคนนี้จนสุดท้ายก็ได้มีการทำแบรนด์นี้เพิ่มขึ้นมากมายหลายสาขาทั่วโลกจนกลายเป็นแบรนด์ที่ไม่มีใครคนไหนบนโลกที่ไม่รู้จัก

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนัน ต่างประเทศ

สงครามโลกครั้งที่2เกิดขึ้นได้อย่างไร

ถ้าพูดถึงสงครามโลกหลายคนก็จะตั้งคำถามว่า สงครามโลกครั้งที่2นั้นได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่แล้วมันได้จบลงเมื่อไหร่เราบอกเลยว่ามันตอบได้ค่อนข้างที่จะยากเพราะในปัจจุบันนี้นักประวัติศาสตร์ต่างๆก็ยังได้เถียงกันอยู่เลยว่าเราจะนับตรงจุดไหนเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สองดีอยากให้เราลองนึกสภาพในสมัยนั้นกันดูว่ามันไม่ได้มีใครสักคนหนึ่งที่จะลุกขึ้นมาแล้ว

ก็บอกเราว่า ตอนนี้ทุกประเทศได้เกียรติกันดังนั้นฉันขอประกาสให้เริ่มสงครามโลกครั้งที่สองได้เลยทุกประเทศเชิญรบกันได้เลย ดังนั้นเรามาดูเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกันเลยดีกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วมันก็ค่อยๆพัฒนากลายมาเป็นสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างไง อย่างแรกเลยก็คือ สนธิสัญญาสันติภาพ โดยสนธิสัญญาที่ชื่อว่าTreaty of Versailles

และก็เป็นสนธิสัญญาบังคับให้ประเทศผู้ที่แพ้สงครามจะต้องเซ็นแล้วก็จะต้องปฏิบัติตามไม่ว่าจะเป็นการลดทหารลงเหลือเท่านั้นเท่านี้ห้ามมีกองทัพนั้นกองทัพนี้จะต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามรวมไปถึงด้านการปฏิบัติตัวหรืออะไรต่างคือ สนธิสัญญา อะไรพวกนี้พยายามที่จะบังคับให้ประเทศที่เขาอ้างว่าเป็นผู้ที่เริ่มสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ไม่มีกำลังใดๆเพื่อที่จะก่อสงครามอีกต่อไปนอกจากนี้มันก็ยังได้เป็นสนธิสัญญาที่ได้ให้ประโยชน์แก่ผู้ที่ชนะสงครามประเทศต่างรู้สึกยังไงบ้าง ประเทศแรกแน่นอนว่าเยอรมันไม่ชอบอย่างแน่นอนทำไมจะต้องไปกดเยอมันอะไรขนาดนี้เราทำผิดก็จริงแต่ว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไรขนาดนั้นแล้วก็จะต้องมากดดันเราอะไรต่างๆนานานึกสภาพแบบหมาจนตรอกโดนกดไปจนถึงขีดสุด

แล้วคดว่าอยากจะสู้กลับฝั่งประเทศอิตาลีเป็นผู้ชนะในสงครามในสงครามโลกที่แล้วกะว่าเขาจะกลับมายิ่งใหญ่ในจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่อีกรอบหนึ่งแต่ปรากฎว่าสนธิสัญญาในฉบับนี้ไม่ได้ให้อะไรกับอิตาลีอะไรมากมายเลยและทาง อิตาลีก็ได้คาดหวังดินแดนมากมายกลับมาแต่ก็ได้กลับมาแค่นึดหน่อยดังนั้นอิตาลีก็ไม่พอใจ

ส่วนทางด้านฝั่งสหรัฐอเมริกาก็ไม่ค่อยจะยอมรับสนธิสัญญาในฉบับนี้เพราะว่าได้ทำตัวเป็นพระเอกเขาได้บอกว่าอะไรสนธิสัญญานี้มันไม่ยุติธรรมเลยเราไม่โอเคเราไม่ยอมรับแต่ก็ยังได้มีอยู่สองประเทศเท่านั้นที่ได้มีความพอใจกับหนังสือสนธิสัญญาในฉบับนี้มากๆเลยก็คือ อังกฤษกับฝรั่งเศสนั้นเอง เนื่องด้วยหนังสือสนธิสัญญาสนติภาพอะไรต่างๆ

จึงทำให้เกิดการก่อตั้งองค์กรหนึ่งขึ้นมาที่เรียกว่า Leaguue of Nationsคล้ายๆกับยูเอ็นเหมือนกับสหประชาชาติในตอนนี้นั้นเองดังนั้นเมื่อเยอรมันแพ้สงครามฝรั่งเศสก็เลยถือโอกาศเอาสนธิสัญญาแวร์ซาย สนธิสัญญาสันติภาพต่างเอามาบังคับแล้วก็กดดันเยอรมันแบบสุดขีดรีดทุกอย่างจากเยอรมันซึ่งมันก็ได้มีความคัดแย้งกันแบบเล็กๆน้อยๆกันแล้ว

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน true wallet

ประวัติการสร้างสะพานพระพุทธยอดฟ้า

             หากพูดถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้าแล้วหลายคนอาจจะไม่รู้จักแต่ถ้าเรียกว่าสะพานพุทธแล้วแน่นอนว่าทุกคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีกว่าที่สะพานแห่งนี้นั้นเป็นจุดที่บริเวณใต้สะพานจะมีตลาดขายของซึ่งเป็นตลาดกลางคืน ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนในกรุงเทพฯนั้นนิยมพากันมาเดินเที่ยวจับจ่ายซื้อของกันในยามค่ำคืนเป็นอย่างมากสำหรับสะพานพระพุทธยอดฟ้านี้เป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหวังจะมีการเชื่อมระหว่าง 2 ฝั่งก็คือฝั่งในเขตกรุงเทพฯกับฝั่งของกรุงธนบุรีให้เชื่อมต่อถึงกัน

ให้กลายเป็นพื้นที่อันหนึ่งอันเดียวกันนั่นเองโดยมีการสร้างผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานพุธนี้ถือว่าเป็นสะพานแห่งแรกที่มีการสร้างผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาโดยในครั้งแรกที่จะมีการสร้างนั้นมีความคิดมาจากพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ท่านทรงต้องการที่จะให้มีการสร้างสะพานเชื่อมต่อกันทั้งสองแผ่นดินเอาไว้

แต่เนื่องจากว่าในสมัยของรัชกาลที่ 4 นั้นอุปกรณ์เกี่ยวกับเรื่องของทางการก่อสร้างยังไม่มีความทันสมัยมากนักการที่จะต้องก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่นั้นจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากทำให้แนวความคิดนั้นจึงยังไม่มีการลงมือแต่หลังจากนั้นต่อมาในช่วงสมัยของรัชกาลที่ 7 พระองค์จึงได้เอาแนวความคิดที่รัชกาลที่ 4 เคยคิด

และเคยพูดเอาไว้ว่าอยากจะทำมาทำแทนโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทานได้สั่งให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เป็นผู้ประสานงานในการก่อสร้างสะพานพระพุทธยอดฟ้าในครั้งนี้โดยหลังจากที่มีการสร้างสะพานแห่งนี้เสร็จก็มีการตั้งชื่อสะพานตามชื่อของรัชกาลที่ 7 ได้ก็คือสะพานพระพุทธยอดฟ้านั่นเองในช่วงสมัยที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นญี่ปุ่นได้มาตั้งฐานทัพอยู่ในตรงเขตบางกอกน้อย

ซึ่งอยู่ใกล้กับสะพานพระพุทธยอดฟ้าดังนั้นในช่วงเวลาสงครามโลกนั้นฝ่ายพันธมิตรนั่นก็คือฝ่ายของประเทศอังกฤษได้มีการทิ้งระเบิดลงมาแถวบริเวณบางกอกน้อยจนได้รับความเสียหายและระเบิดที่ยอมลงมาเพื่อหวังทำลายล้างทหารญี่ปุ่นนั้นก็มาสร้างความเสียหายให้กับสะพานพุทธยอดฟ้าเช่นเดียวกันซึ่งหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงคำองค์การสหประชาชาติได้มีการมาสร้างสะพานเพื่อทำการทดแทนสะพานพระพุทธยอดฟ้าที่เสียหายจากการถูกระเบิด

โดยมาทำสะพานเบลี่ย์เพื่อให้ใช้เป็นการชั่วคราวไปก่อนหลังจากนั้นในช่วงปีพุทธศักราช 2491 ทางรัฐบาลไทยจึงได้มีการออกมาบูรณะซ่อมแซมสะพานพระพุทธยอดฟ้าอีกครั้งหนึ่งและสามารถที่จะเปิดให้สะพานแห่งนี้ใช้งานได้ตามปกติมาจนถึงปัจจุบันนี้เมื่อประมาณปีพศ 2492 อย่างไรก็ตามถ้าใครไปเดินแถวสะพานพุทธนี้

ก็เห็นว่าจะมีสะพานอีกสะพานหนึ่งที่มีอยู่คู่กันซึ่งเรียกว่าสะพานสมเด็จพระปกเกล้าโดยมีการสร้างเอาไว้เป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานพุทธซึ่งทางการนั้นต้องการที่จะให้สะพานทั้งสองเส้นนี้เปิดให้รถยนต์วิ่งเพื่อหวังแบ่งเบาน้ำหนักของรถยนต์ที่ไปใช้งานสะพานพุทธอย่างเดียวเนื่องจากว่าสะพานพุทธนั้นมีอายุการสร้างมายาวนานแล้วถือว่าเป็นโบราณสถานของสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่ควรต้องอนุรักษ์เอาไว้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนัน ดีที่สุด 2020

ประวัติศาสตร์ชาติไทย

         คุณเคยคิดไหมว่าพวกเรานั้นตั้งแต่เล็กจนโตมาเราจำเป็นต้องเรียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยแล้วเราเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์นั้นไปเพื่ออะไรเคยลองย้อนนึกไปคิดดูบ้างไหมว่าทำไมเราถึงต้องเรียน เพราะส่วนใหญ่เวลาที่เราเรียนเกี่ยวกับเรื่องของประวัติศาสตร์นั้นเราจะต้องมานั่งท่องจำวันเดือนปีว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ปีอะไรหรือจะต้องมานั่งจำชื่อของใคร คิดไหมว่าทำไมเราถึงต้องเรียนแล้วเวลาที่เราเรียนประวัติศาสตร์นั้นจะมีประโยชน์อะไรกับเรายังไงบ้าง อันที่จริงแล้วถ้าหากนึกย้อนไปในการที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

เพราะมันจะทำให้เรารู้ว่าอดีตนั้นเป็นยังไงเพื่อที่เราจะได้นำอดีตนั้นมาแก้ไขทำให้ปัจจุบันดีขึ้นนั่นเอง แต่ปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังคงพบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความยากจนและข้าราชการของประเทศไทยนั้นก็ยังคงมีการทุจริตกันมาก อีกทั้งยังมีการแก่งแย่งชิงดีของคนไทยในชาติเดียวกันและ การที่นักการเมืองต่างก็เข้ามาแก่งแย่งอำนาจให้ตนเองเป็นใหญ่กัน

ซึ่งนี่เองที่เราจำเป็นที่จะต้องมองย้อนกลับไปว่าในประวัติศาสตร์นั้นมีการปกครองกันแบบไหนถึงสามารถที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวมาจนถึงทุกวันนี้ได้สมัยกรุงศรีอยุธยานั้นประเทศไทยมีการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และพระมหากษัตริย์นั้นจะมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินคดีความและมีเมืองหลวงเมืองเดียวก็คือกรุงศรีอยุธยาที่เป็นเมืองหลวงใหญ่เป็นราชธานี กษัตริย์นั้นจะเป็นคนที่เลือกตัวแทนของพระองค์ซึ่งเป็นข้าราชการไปปกครองหัวเมืองน้อยใหญ่

ที่ล้อมรอบเมืองหลวงเอาไว้ เทียบการปกครองและการดูแลประชาชนในสมัยกรุงศรีอยุธยากับในสมัยปัจจุบันนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลยเพราะสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นเราเสียกรุงจากว่าข้าราชการนั้นคอรัปชั่นและมีการแก่งแย่งชิงดีกันในขณะที่ปัจจุบันนี้ของเราเองก็มีการแก่งแย่งอำนาจต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่นๆก็มีการแสดงอำนาจและมีการโกงกินประเทศชาตินั่นเองจึงทำให้ปัจจุบันกับในอดีตนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย ซึ่งในอดีตนั้นเนื่องจากว่าคนไทยไม่ได้รักสามัคคีกันอย่างแท้จริง

จึงทำให้พม่ามารบและทำลายบ้านเมืองได้ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าจะไม่มีต่างประเทศมาตีเมืองประเทศไทยได้แต่การที่คนในประเทศนั้นไม่รักใคร่กลมเกลียวและไม่สามัคคีกันก็จะทำให้ประเทศชาตินั้นล้มสลายได้ง่ายเช่นเดียวกันดังนั้นการที่เราเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยเราควรจะนำประวัติศาสตร์นั้นมาแก้ไขปัจจุบันให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมไม่ใช่เป็นการซ้ำรอยประวัติศาสตร์ชาติไทยนั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์