ป้ายกำกับ: next88

ตำนาน เชียงใหม่กับชายรูปงามแห่งเมืองหนองหาร จังหวัดอุดรธานี 

          สำหรับตำนานนี้ได้พูดถึงชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาดีเป็นที่ชอบพอของหญิงสาวไม่ว่าจะเป็นหญิงโสดหรือหญิงหม้ายหรือหญิงที่มีสามีแล้วก็ตามจนทำให้เขาต้องจบชีวิตลงจากความรูปหล่อของเขาโดยที่เขานั้นไม่มีความผิดเลยซึ่งเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในสมัยโบราณในช่วงที่มีลาวอพยพเข้ามาอยู่ในตำบลหนองหารแห่งนี้ ซึ่งในสมัยนั้นเป็นที่อยู่ของหมู่บ้านเชียงงาม ในสมัยนั้นมีครอบครัวครอบครัวหนึ่งมีลูกชายที่หน้าตาน่ารักมากซึ่งเมื่อเขาถึงวัยเจริญเติบโตถึงคราวที่จะต้องบวช เขาจึงได้ให้ลูกชายนั้นบวชที่วัดแห่งหนึ่งเมืองแถวชานเมือง และด้วยความที่หน้าตาดีนี้เอง

ต่างพากันเดินทางมาเพื่อที่จะมาทำบุญที่วัดแห่งนี้โดยส่วนใหญ่ก็มักจะมาทะเลาะเบาะแว้งกันเพื่อต้องการที่จะเอาใจสามเณรรูปงามองค์นี้ ต่อมาถึงกำหนดที่สามเณรนั้นจะต้องบวชเป็นพระด้วยสมัยโบราณนั้นหากเณรสึกออกมาจากการเป็นเณรแต่ยังไม่ได้บวชเป็นพระ จะเรียกกันว่าเชียง และด้วยที่สามเณรองค์นั้นมี รูปร่างหน้าตาที่งดงามทำให้เขาถูกเรียกว่าเชียงงาม

  หลังจากที่สาวๆรู้ว่าเชียงงามนั้นกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วต่างก็พากันเดินทางมาที่บ้านของเชียงใหม่รามโดยพากันมาทะเลาะตบตีแย่งเพื่อที่จะปฏิบัติเอาใจเชียร์งามซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีเจ้าแม่เมืองของเมืองเชียงรายร่วมอยู่ด้วย ผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นหญิงโสดหรือหญิงที่มีสามีแล้วต่างก็พากันที่มาบ้านของเชนงามเพื่อมาเอาอกเอาใจเชรียงงามกันจนเป็นเหตุให้สามีของหญิงสาวเหล่านั้นต่างก็พากันไม่พอใจ

และบรรดาสามีของหญิงสาวเหล่านั้นต่างก็พากันลงตัวไปฟ้องเจ้าเมืองหนองหานบอกว่าเชียงงามนั้นมาแย่งภรรยาของตนเอง ทำให้ครอบครัวของพวกเขานั้นเดือดร้อนจนเป็นสาเหตุให้เจ้าเมืองหนองหานได้มีการเรียกเชียงงามเข้าพบ และมาสอบสวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยเชียงงามนั้นได้มีการปฏิเสธไปว่าตนเองนั้นไม่ได้มีการล่อลวงให้หญิงคนไหนมาปรนนิบัติพัดวีแต่ว่าผู้หญิงเหล่านั้น

เดินทางมาหาตนเองและนำเข้าของมาให้ตนเอง แต่เจ้าเมืองหนองหานนั้นไม่ยอมฟังคำอธิบายของเชียงงามโดยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของเชียงงามจึงให้เพชฌฆาตมาทำการตัดหัวของเชียงงามไปเสียบประจาน เพราะเจ้าเมืองหนองหานมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนในขณะที่เพชฌฆาตกำลังจะตัดคอเชียงงามนั้น

เขาได้ตะโกนสาปแช่งเจ้าเมืองหนองหาน และผู้คนในเมืองหนองหานให้ทุกคนนั้นไม่มีความเจริญรุ่งเรืองเนื่องจากว่าเขาต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ตัวเขาเองนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยระบุว่าถ้าหากเมืองหนองหารนั้นมีความเจริญก็ขอให้เจริญแค่แป๊บเดียวแล้วก็กลับมาล่มจมอีก และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคำสาปแช่งของเชียงงามก็กลายเป็นเรื่องจริงเพราะเมืองหนองหานนั้นทุกวันนี้ก็ยังไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าที่ควรนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย  next88

2ผู้นำประเทศที่มีความคลั่งอำนาจเห็นแก่ตัวมากเกินไป

ซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ (เติร์กเมนิสถาน)

ซาปาร์มูรัต นิยาซอฟผู้นำที่สุดแสนจะหลงตัวเองแห่งเติร์กเมนิสถานผู้ประกาสตนหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเมื่อปี1991ว่าเขาจะปกครองประเทศนี้ตลอดไปเขาคือผู้ที่เปลี่ยนเติร์กเมนิสถานให้กลายเป็นดินแดนส่วนตัวของตัวเองโดยการตั้งชื่อแลนด์มาร์คที่สำคัญของประเทศถนนหรือแม้แต่สวนสาธารณะเพื่อให้เกียรติสรรเสริญตนเองอีกทั้งยังได้เปลี่ยนชื่อเรียกเดือนเมษายนให้เป็นชื่อมารดาของเขาด้วยนับตั้งแต่ขึ้นปกครองประเทศจนกระทั่งหมดวาระเมื่อเขาได้เสียชีวิตลง นิยาซอฟ ก็ได้ตั้งข้อบังคับแปลกๆขึ้นมาหลายอย่างเพื่อที่บังคับใช้กับปชากรราวๆกว่า5ล้านคนที่จำต้องอยู่ในกรอบนั้นอย่างที่ไม่มีทางเลือก

ไม่ว่าจะเป็นบังคับให้นาฬิกาทุกเรือนจะต้องมีรูปของตัวเองอยู่บนหน้าปัดทำวอดก้าแบรนด์ของตัวเองที่มีรูปของตนเป็นโลโก้ให้เด็กๆเคี่ยวกระดูกเพื่อฟันที่แข็งแรงแทนที่จะส่งเสริมในทางที่เหมาะสมสั่งปิดห้องสมุดของชุมชนเพื่อขักขวางแสวงหาความรู้ของผู้ที่อ่านออกเขียนได้สั่งห้ามให้ผู้ชายไว้หนวดหรือไว้หนวดเคาห้ามมีวิทยุฟังในรถห้ามร้องและบรรทึกเพลงและสิ่งที่ได้แสดงถือความหลงตัวเองอย่างสุดๆก็คือ การสั่งให้ตั้งชื่ออุกกาบาตขนาด300กิโลกรัมที่ได้พุ่งตกลงมาในเขตเติร์กเมนิสถาน1998ว่าเพื่อเป็นการแสดงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองด้วย

คิมจองอิล ( เกาหลีเหนือ )

คิมจองอิลอดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีดหนือซึ่งก็ได้จากโลกนี้ไปเมื่อในปี2011ที่พึ่งผ่านม่ามกลางประกาสที่จะดูเหมือนกับว่าประชาชนของเกาหลีเหนือก็กำลังตกอยู่ในความเศร้าอาลัยอย่างแสนสาหัสถึงกับต้องมารวมตัวกันเพื่อร้องไห้กับผู้ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วแต่ในหลายๆคนก็ได้วิเคราะห์กันไปว่าในการที่ประชาชนนั้นได้ร้องไห้เพีงเพราะแสดงความหวาดกลัวประชาชนชาวเกาหลีเหนือก็ได้ถูกให้มาแสดงอาการโสกเศร้าเพื่อให้สื่อต่างประเทศได้เห็นหากใครที่ไม่แสดงความอาลับอาวอนให้สมทบบาทประชาชนผู้นั้นและครอบครัวก็จะถูกลงโทษเกาหลีเหนือก็ได้กลายเป็นดินแดนที่ไร้เสรีภาพในด้านสื่อศาสนาการศึกษา

และแน่นอนที่สุดก็คือว่าในด้านของการเมืองในยุคของคิมจองอิลก็ได้มีการจับนักโทษการเมืองกว่า200,000ราย จับจริงจากนั้นก็ได้ลงโทษกันอย่างจริงจังจนทำให้ชาวบ้านนั้นต่างหวาดกลัวในการแข็งข้อไม่ว่าจะเป็นการบังคับกดขี่มากซักเพียงใดก็ตามถึงแม้ว่าในความเป็นอยู่ของประชาชนจะต้องอดยากอย่างลำบากเหลือใจแต่ทางด้านผู้นำของประเทศกลับได้ใช้ชีวิตในทางตรงกันข้ามคิมจองอิลได้มีชีวิตที่กินดีอยู่ดีมีห้องใต้ดินที่เก็บวายชั้นเลิศเอาไว้เป็นพันๆขวดมีเที่ยวบินตรงจากญี่ปุ่นเพื่อเสริฟชูชิอย่างดีให้กับผู้นำและเขาก็ได้ใช้เงินมากกว่า 20ดอลลาร์

 

สนับสนุนโดย  next88