ป้ายกำกับ: aesexy

ประวัติศาสตร์พวกมองโกลทำการบุกพม่า

กุบไลข่าน จอมทัพมองโกล ซึ่งได้เอาชนะจีนภาคเหนือแล้วตั้งใจจะรวมอาณาจักร 2 ภาคใต้รวมทั้งมณมลฑณยูนานและเลยไปถึงเมืองฮานอย ดังนั้นในปีคริสต์ศักราช 1253 กองทัพมองโกเข้ายึดครองอาณาจักร น่านเจ้า และในปีคริสต์ศักราช1257 ก็เข้าครองเมืองฮานอย

คนไทยเสียอาณาจักรน่านเจ้าไปแล้วทหารไทยจำนวนไม่น้อยจำต้องเข้ารวมอยู่ในกองทัพมองโกลทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ยุทธวิธี

ประวัติศาสตร์พวกมองโกล และกลเม็ดการรบของพวกมองโกลขณะนั้นกุบไลข่านปรับปรุงกองทัพและในปี คริสตต์ศักราช1260 เริ่มรบต่อต้านราชวงศ์ซ้องพี่ชายใหญ่  ซึ่งเป็นหัวหน้าสูงสุดของพวกมองโกลข่านมากุนตายในการรบ กุบไลข่ายจึงกลายเป็นหัวหน้าพวกมองโกลและป้องครองจีนทั้งประเทศด้วยในฐานะเป็นผู้รับมรดกราชวงศ์ซ้อง กุบไลข่านต้องการให้อาณาจักรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกอาณาจักรที่เคยยอมรับราชวงศ์ซ้องเป็นใหญ่บัดนี้ควรยอมรับตนเช่นเดียวกัน

เนื่องจากบัดนี้กุบไลข่านเป็นหัวหน้าพวกมองโกลและเป็นผู้ชนะจึงต้องการให้อาณาจักรทั้งหลายส่งบรรณาการมาให้แจงชัดและแน่นอนดังนั้นพระองค์จึงใช้กำลังบังคับให้กษัตริย์ทั้งหลายดังนั้นเพราะองค์จึงใช้กำลังทหารบังคับให้กษัตริย์ทั้งหลายมาถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้า

ในปีคริสต์ศักราช1257 หลังจากที่พระองค์ปราบราชวงศ์ซ้องที่ต่อต้านประเทศจีนได้หมดแล้วพระองค์ได้มีพระบัญชาไปยังอุปราชทั้งหลายให้เรียกร้องบรรณาการและการสวามิภักดิ์จากกษัตริย์ทั้งหลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีคริสต์ศักราช 1271 อุปราชมองโกลที่มลฑณยูนานก็ส่งคำสั่งไปยังกษัตริย์พม่าอย่างน้อยก็สมัยพระเจ้าอนุรุทธเป็นต้นมาที่อาณาจักรพุกามที่ไม่เคยส่งบรรณาการให้จีนและคณะทูตพม่าที่ไปยังเหมือนหลวงจีนได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติอย่างประเทศใหญ่ๆทุกประการ

อันที่จริงพระเจ้าอนุรุทธกลับทรงได้รับบรรณาการจากอาณาจักรน่านเจ้าบริวาลของจีนด้วยซ้ำถึงแม้ว่าพวกเจ้าไทรใหญ่ต่างๆที่อยู่ตามชายแดนภาคเหนือของพม่าไม่แสดงท่าทีว่าอุปราชมองโกลควรเป็นฝ่ายแสดงคารวะกษัตริย์พม่าดังนั้นเขาจึงส่งทูตไปยังกรุงพุกามเรียกร้องบรรณาการพระเจ้านรสีหบดีด้วยความสนับสนุนจากประชาชนของพระองค์

นอกจากนี้ พระเจ้านรสีหบดี ทรงปฏิเสธไม่ยอมรับทูตที่มาเรียกร้องบรรณาการนั้นอีก2ปีต่อมากษัตริย์จีนส่งทูตมาอีกนำพระราชสารกุบไลข่านมาเองพงศาวดารระบุว่าทูตในฐานะเป็นผู้แทนของจักรพรรดิทำตัวเหมือนเป็นจักรพรรดิเองและไม่ยอมถอนรองเท้าเข้าเฝ้ากษัตริย์พม่า

กษัตริย์พม่าจึงทรงสั่งให้จับทูตและคณะทันที่และต่อมาสั่งให้ประหารชีวิตเสนาบดีพากันทักท้วงชี้ให้เห็นว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตและเสรีภาพของทูตแต่กษัตริย์พม่าอ้างว่าเนื่องจากทูตได้ประพฤติผิดอย่างร้ายแรงจึงไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งนั้นคงเป็นความจริงว่าทูตคงก่อปัญหายุ่งยากขึ้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    aesexy

Caravaggio

มีจิตรกรผู้โด่งดังคนหนึ่งในช่วงปี 1952 โดยชื่อของเขานั้นก็คือ Caravaggio เขานั้นได้มีการเดินทางมายังกรุงโรมประเทศอิตาลี เพื่อเข้ามาสู่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา และชีวิตใหม่ที่คาดหวังของเขานั้นก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวังและราบรื่นสักเท่าไหร่นักโดยในช่วงชีวิตของเขานั้นก็ได้มีการเผชิญกับโรคเจ็บป่วยเพราะระหว่างการเดินทางนั่นเองเขาได้ประสบกับอาการป่วยอย่างหนักและทำให้เขาต้องหยุดเดินทางเพื่อรักษาตัว

และอาศัยอยู่ที่ซานตามาเรีย เป็นระยะเวลานานถึง6เดือนเลยทีเดียว และหลังจากที่เขานั้นมีการพักรักษาตัวเขาก็ได้มีการสร้างสรรค์ผลงานและทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นกับผลงานภาพเหมือนอย่าง Sick Bacchus ซึ่งเป็นภาพวาดที่เหมือนกับตัวของเขานั้นเอง

โดยภาพวาดนั้นที่เขาได้มีการสร้างสรรค์โดยการวาดและสีผิวที่เขาได้วาดนั้นจะเป็นสีผิวที่แทบจะออกเป็นสีเหลืองและจากสีผิวนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอาการป่วยของโรคที่เขานั้นเป็นอยู่นั่นก็คือโรคดิซาน ที่ทำให้เขานั้นทรมานและต้องหยุดพักเพื่อรักษาตัวนั่นเอง

โดย Bacchus นั้นเป็นชื่อของสิ่งที่เป็นตำนานของชาวโรมัน โดย Bacchus นั้นได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งไวน์ส่วนอาการเจ็บป่วยที่อาจจะเป็นโรคดิซานนั้นหรือพิษสุราเรื้อรังนั้น Caravaggio เลยได้มีการใช้ตัวเองนั้นเป็นแบบอาการป่วยและสภาพร่างกายที่เขานั้นกำลังเผชิญอยู่แบบนี้นี่แหละที่เหมาะสมและให้ความสมจริงกับการเป็นเทพเจ้าผู้ติดเหล้าจนมีอาการดังกล่าวเช่นเขาเหล่านี้ และก็ถือว่าการสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมานั้นแสดงและสื่อถึงความภักดีอีกรูปแบบหนึ่งที่ศิลปินสักคนจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่เกี่ยวกับเทพเจ้าที่เขานั้นได้เคารพนับถือได้ออกมาอย่างสวยงาม

ไม่มีสิ่งที่บอกชัดเจนว่า Caravaggio นั้นสามารถวาดภาพนี้ออกมาในขณะที่เขากำลังป่วยจนเสร็จออกมาสวยงามและสมบูรณ์ได้อย่างไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมาก เพราะในขณะที่เขานั้นป่วยเขาก็ยังคงรักและมีความคิดที่จะสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองออกมาให้ผู้คนได้ชมอย่างดีที่สุดด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า Caravaggio จะได้ลาลับจากโรคไปแล้วแต่สิ่งที่ยังหลงเหลือและเป็นสิ่งที่เขานั้นได้ถ่ายทอดเอาไว้ก็คือผลงานอันสวยงามและแผงไปด้ยความหมายที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู

และไม่เพียงผลงานที่ได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Sick Bacchus เพียงเท่านั้น เขายังได้สร้างผลงานที่น่าสนใจและก็เป็นผลงานที่ถือว่าได้รับความนิยมมากเช่นกันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ศิลปะด้วยสีน้ำมันบนผ้าใบที่มีความสวยงามและเป็นสิ่งที่ถือว่าแปลกใหม่อย่างมาก ทำให้ Caravaggio นั้นยังคงเป็นชื่อมีการกล่าวขานอยู่เสมอในแวดวงศิลปะและยงควมีการจัดนิทรรศการเพื่อระลึกถึง Caravaggio อยู่เสมอด้วย

 

สนับสนุนโดย    aesexy