หมวดหมู่: ศิลปะ

วัดพระธาตุหิริภุญชัย จังหวัดลำพูน 

วัดพระธาตุหิริภุญชัย สำหรับจังหวัดลำพูนนั้นเป็นจังหวัดที่ไม่ใหญ่มากนักซึ่งมีอาณาเขตพื้นที่อยู่ในเขตพื้นที่ของภาคเหนือแต่จังหวัดนี้ก็มีปูชนียสถานที่มีความสำคัญและมีความเก่าแก่

มีการก่อสร้างมานับพันปีมากมายหลายแห่งเลยทีเดียวซึ่งปูชนียสถานที่เรากำลังจะมีการพูดถึงในบทความนี้นั้นก็คือวัดพระธาตุหริภุญชัยณสถานที่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญของจังหวัดลำพูนเป็นปูชนียสถานซึ่งถูกสร้างขึ้นมาคู่กับเมืองลำพูนมาอย่างยาวนานว่ากันว่าวัดพระธาตุหิริภุญชัยนนี้มีอายุเก่าแก่มากกว่าหนึ่งพันปีเลยทีเดียว 

         สำหรับใครที่เกิดปีระกาและอยากจะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิดของตนเองนั้นสามารถเดินทางมาที่วัดพระธาตุหริภุญชัได้ซึ่งที่นี่จะเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีระกานั่นเอง  ว่ากันว่าวัดพระธาตุหิริภุญชัยนั้นมีสิ่งก่อสร้างที่มีความสวยงามลงตัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียวซึ่งสถาปัตยกรรมต่างๆที่มีการก่อสร้างไว้ในพระธาตุหริภุญชัยนั้นจะมีลักษณะของการใช้ศิลปะล้านนาแบบไทยๆแท้

         โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจดีย์ที่เป็นที่จัดเก็บพระธาตุนั้นเป็นแบบล้านนาไทยแท้ๆตั้งแต่โบราณอาการเลยทีเดียว  ภายในเจดีย์นั้นก็จะมีการนำกรดสีทองมาประดิษฐ์ฐานเอาไว้ซึ่งภายในกรอบสีทองนั้นก็จะมีการบรรจุพระเกศบรมธาตุดังนั้นถ้าหากใครเดินทางไปที่วัดพระธาตุหริภุญชันั้นแนะนำว่าจะต้องแวะไปกราบไหว้เจดีย์ซึ่งเป็นที่จัดเก็บพระเกศบรมธาตุนั่นเอง

            อย่างไรก็ตามวัดพระธาตุหิริภุญชัยนั้นมีความงดงามตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูทางเข้าเลยทีเดียวถ้าหากจะสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าที่บริเวณซุ้มประตูทางเข้านั้นก็มีการก่อสร้างเอาไว้อย่างสวยงามวิจิตรบรรจงหรืออาจจะกล่าวได้ว่าการก่ออิฐถือปูนนั้นค่อนข้างที่จะมีลวดลายพิสดารเป็นอย่างมากแต่ก็ยังคงมีความสวยงามโดยว่ากันว่าฝีมือช่างที่มาก่อสร้างวัดพระธาตุหิริภุญชัยนั้นเป็นช่างฝีมือโบราณซึ่งเป็นช่วงสมัยของศรีวิชัยดังนั้นจะเห็นได้ว่าตรงบริเวณซุ้มประตูจะมีการสร้างซุ้มเป็นยอดและเป็นชั้นๆ

        นอกจากนี้ยังมีการสร้างสิ่งคู่เอาไว้บริเวณด้านหน้าของซุ้มประตูซึ่งแลดูแล้วให้ความสง่างามเป็นอย่างมากเลยทีเดียวนอกจากนี้ภายในอาณาเขตพื้นที่ของวัดพระธาตุหริภุญชัยนั้นยังมีวรสารเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดที่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปศึกษาหาความรู้รวมถึงไปกราบไหว้ขอพรไม่ว่าจะเป็นรอยพระพุทธบาท 4 ดวงหรือวิหารพระเจ้าองค์แดงนอกจากนี้ยังมีวิหารพระเจ้าทันใจและวิหารพระนอนอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย  alpha88

ประวัติศาสตร์พวกมองโกลทำการบุกพม่า

กุบไลข่าน จอมทัพมองโกล ซึ่งได้เอาชนะจีนภาคเหนือแล้วตั้งใจจะรวมอาณาจักร 2 ภาคใต้รวมทั้งมณมลฑณยูนานและเลยไปถึงเมืองฮานอย ดังนั้นในปีคริสต์ศักราช 1253 กองทัพมองโกเข้ายึดครองอาณาจักร น่านเจ้า และในปีคริสต์ศักราช1257 ก็เข้าครองเมืองฮานอย

คนไทยเสียอาณาจักรน่านเจ้าไปแล้วทหารไทยจำนวนไม่น้อยจำต้องเข้ารวมอยู่ในกองทัพมองโกลทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ยุทธวิธี

ประวัติศาสตร์พวกมองโกล และกลเม็ดการรบของพวกมองโกลขณะนั้นกุบไลข่านปรับปรุงกองทัพและในปี คริสตต์ศักราช1260 เริ่มรบต่อต้านราชวงศ์ซ้องพี่ชายใหญ่  ซึ่งเป็นหัวหน้าสูงสุดของพวกมองโกลข่านมากุนตายในการรบ กุบไลข่ายจึงกลายเป็นหัวหน้าพวกมองโกลและป้องครองจีนทั้งประเทศด้วยในฐานะเป็นผู้รับมรดกราชวงศ์ซ้อง กุบไลข่านต้องการให้อาณาจักรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกอาณาจักรที่เคยยอมรับราชวงศ์ซ้องเป็นใหญ่บัดนี้ควรยอมรับตนเช่นเดียวกัน

เนื่องจากบัดนี้กุบไลข่านเป็นหัวหน้าพวกมองโกลและเป็นผู้ชนะจึงต้องการให้อาณาจักรทั้งหลายส่งบรรณาการมาให้แจงชัดและแน่นอนดังนั้นพระองค์จึงใช้กำลังบังคับให้กษัตริย์ทั้งหลายดังนั้นเพราะองค์จึงใช้กำลังทหารบังคับให้กษัตริย์ทั้งหลายมาถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้า

ในปีคริสต์ศักราช1257 หลังจากที่พระองค์ปราบราชวงศ์ซ้องที่ต่อต้านประเทศจีนได้หมดแล้วพระองค์ได้มีพระบัญชาไปยังอุปราชทั้งหลายให้เรียกร้องบรรณาการและการสวามิภักดิ์จากกษัตริย์ทั้งหลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีคริสต์ศักราช 1271 อุปราชมองโกลที่มลฑณยูนานก็ส่งคำสั่งไปยังกษัตริย์พม่าอย่างน้อยก็สมัยพระเจ้าอนุรุทธเป็นต้นมาที่อาณาจักรพุกามที่ไม่เคยส่งบรรณาการให้จีนและคณะทูตพม่าที่ไปยังเหมือนหลวงจีนได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติอย่างประเทศใหญ่ๆทุกประการ

อันที่จริงพระเจ้าอนุรุทธกลับทรงได้รับบรรณาการจากอาณาจักรน่านเจ้าบริวาลของจีนด้วยซ้ำถึงแม้ว่าพวกเจ้าไทรใหญ่ต่างๆที่อยู่ตามชายแดนภาคเหนือของพม่าไม่แสดงท่าทีว่าอุปราชมองโกลควรเป็นฝ่ายแสดงคารวะกษัตริย์พม่าดังนั้นเขาจึงส่งทูตไปยังกรุงพุกามเรียกร้องบรรณาการพระเจ้านรสีหบดีด้วยความสนับสนุนจากประชาชนของพระองค์

นอกจากนี้ พระเจ้านรสีหบดี ทรงปฏิเสธไม่ยอมรับทูตที่มาเรียกร้องบรรณาการนั้นอีก2ปีต่อมากษัตริย์จีนส่งทูตมาอีกนำพระราชสารกุบไลข่านมาเองพงศาวดารระบุว่าทูตในฐานะเป็นผู้แทนของจักรพรรดิทำตัวเหมือนเป็นจักรพรรดิเองและไม่ยอมถอนรองเท้าเข้าเฝ้ากษัตริย์พม่า

กษัตริย์พม่าจึงทรงสั่งให้จับทูตและคณะทันที่และต่อมาสั่งให้ประหารชีวิตเสนาบดีพากันทักท้วงชี้ให้เห็นว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตและเสรีภาพของทูตแต่กษัตริย์พม่าอ้างว่าเนื่องจากทูตได้ประพฤติผิดอย่างร้ายแรงจึงไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งนั้นคงเป็นความจริงว่าทูตคงก่อปัญหายุ่งยากขึ้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    aesexy

ประวัติประเพณีผีตาโขน 

           เมื่อพูดถึงประเพณีผีตาโขนเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินและอาจจะเคยเดินทางไปเที่ยวเยี่ยมชมการจัดงานประเพณีกันมาบ้างซึ่งประเพณีนี้นั้นจะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี  เนื่องจากเป็นประเพณีประจำของจังหวัดเลย   เป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่นักท่องเที่ยวต่างก็อยากไปรุ่งและไปเห็นการจัดงานประเพณีนี้กัน

      สำหรับประวัติความเป็นมาของการจัดประเพณีผีตาโขนนั้นมีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณเป็นประเพณีที่เกี่ยวโยงเกี่ยวกับเรื่องของงานบุญ  สำหรับประเพณีนี้ถือว่าเป็นประเพณีงานบุญใหญ่ของจังหวัดเลยเลยก็ว่าได้ซึ่งชาวบ้านจังหวัดเลยจะมีการเรียกประเพณีนี้ว่าบุญผะเหวดหรืองานบุญหลวง 

        การจัดประเพณีผีตาโขนนั้นเป็นงานบุญที่จะมีการเกี่ยวพันกับเรื่องของพระพุทธศาสนาโดยจะมีการจัดขึ้นที่อำเภอด่านซ้ายภายในงานนั้นจะมีการเทศน์มหาชาติประจำปีเป็นงานบุญพระเวทย์ที่มีความเกี่ยวพันกับพระธาตุศรีสองรักซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของอำเภอด่านซ้ายนั่นเองการจัดงานจะมีการจัดขึ้นให้ตรงกับเดือน 7  หรือเดือนกันยายน

          สำหรับประวัติความเป็นมาของการจัดประเพณีผีตาโขนนั้นมีความเชื่อกันว่า  ประเพณีใดมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยของพระเวสสันดรที่เดินทางออกมาจากป่าพร้อมกับพระนางมัทรีโดยทั้งสองพระองค์นั้นเดินทางเพื่อที่จะพากันเข้าไปในตัวเมือง  แต่เนื่องจากว่าตอนที่อยู่ในป่านั้นพระเวสสันดรและพระนางมัทรีเป็นที่รักของสัตว์นานาชนิดรวมถึงพวกบรรดาผีป่าทั้งหลาย

           ดังนั้นพอรู้ว่าพระเวสสันดรและพระนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่าจึงพากันอะไรและแฝงตัวมากับทั้งสองพระองค์ด้วยโดยมีการปลอมแปลงมาเป็นชาวบ้านเพื่อที่จะมาส่งพระเวสสันดรและพระนางมัทรีกลับเข้าสู่เมืองนั่นเองซึ่งในสมัยนั้นได้มีการเรียกกันว่าผีตามคนต่อมาก็มีการเรียกเพี้ยนเป็นผีตาขนแล้วต่อมาก็เพี้ยนหนักจนกลายเป็นผีตาโขนมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง 

         สำหรับการแต่งกายผีตาโขนจะมีการแบ่งออกเป็น 2 แบบนั้นก็คือผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนเล็กซึ่งแตกต่างกันที่ว่าถ้าผีตาโขนใหญ่ก็จะเป็นผู้ใหญ่แต่งตัวคล้ายกับผีมีการตกแต่งโดยมีการนำวัสดุต่างๆมาประดับตกแต่งให้มีความน่ากลัว ส่วนผีตาโขนและก็จะเป็นเด็กมาทำการตกแต่งซึ่งผีตาโขนเล็กนั้นจะค่อนข้างซุกซนและเล่นโลดโผนส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กผู้ชายมีการแต่งเป็นผีตาโขนเล็กส่วนผีตาโขนใหญ่นั้น จะมีการสร้างแค่เพียง 2 ตัวเท่านั้นก็คือตัวเพศหญิงกับเพศชาย และคนที่จะสามารถเป็นผีตาโขนใหญ่ได้นั้นจะต้องเป็นคนที่ถูกเลือกแล้วเท่านั้นไม่สามารถที่จะให้ใครเป็นก็ได้ 

ประติมากรรมชั้นยอดที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก 

        สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานด้านศิลปะย่อมรู้ดีว่าผลงานศิลปะนั้นบางชิ้นนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก  ประติมากรรมชั้นยอด ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงประติมากรรมชั้นยอดที่หลายคนนั้นพูดถึงและยังคงคุณค่าให้มีการพูดถึงมาจนถึงปัจจุบันนี้ สำหรับผลงานที่มีการนำมากล่าวในบทความนี้จะเป็นผลงานที่ศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก

ได้มีการรังสรรค์ผลงานเอาไว้ในสมัยที่พวกเขานั้นยังคงเริ่มเข้ามาคลุกคลีกับวงการศิลปะและประติมากรรมต่างๆด้วยผลงานที่เรานำมาพูดถึงนั้นมีทั้งหมด 2 ผลงานด้วยกันนั่นก็คือ 

Ecstasy of Saint teresa of inertia 

          สำหรับผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1652 ตั้งอยู่ที่โบสถ์ซานตามาเรียเวลาวิคตอเรีย เดอราวิตอเรีย กรุงโรมประเทศอิตาลีถือเป็นประติมากรรมชิ้นเอกของ จิอันโด เซนโซ่แบดินี่ ผู้ที่มีชื่อเสียงในกรุงโรมเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 17 ปฏิมากรรมชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากเรื่องราวของแม่ชีผู้หนึ่งที่ได้ทำการบันทึกเรื่องราวทางศาสนาที่เธอได้ทำการปฏิรูป แต่เธอกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติ 

       จนกระทั่งปี 1622 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี ที่ 15 จึงได้ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการให้เธอได้เป็นนักบุญหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้วถึง 40 ปีและนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นนี้ของโรเซนโซ่ โดยเขาได้จากองค์ประกอบให้งานแกะสลักนี้มีท่าทางคล้ายกับการแสดงละครเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านออกมาถือเป็นผลงานที่ยากต่อการนำมาลอกเลียนแบบขึ้นใหม่สำหรับปฏิมากรคนอื่นๆในเวลาต่อมา 

     PIETA 

       สำหรับผลงานชิ้นนี้เป็นงานประติมากรรมสลักสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ในปี 2499 ถูกสร้างขึ้นโดยมี เกลันเจโลบูโอนาร์โรตีหรือไมเคิลแองเจโลนั่นเองตั้งอยู่ในมหาวิหารนักบุญเปโตรที่นครรัฐวาติกันประเทศอิตาลีเป็นงานประติมากรรมที่ถูกทำขึ้นจากหินอ่อนคาราด้าที่แสดงให้เห็นถึงภาพกองพระแม่มารีกำลังอุ้มร่างของพระเยซูคริสต์บทบาทของตนเองหลังจากที่เขาโดนตรึงไม้กางเขนแล้วซึ่งในระหว่างที่ปั้นอยู่นั้นเอง 

       ผลงานชิ้นนี้ Michael angelo  ได้ออกแบบให้พระแม่มารียังเป็นเพียงหญิงสาวที่มีลูกชายในวัยเพียงแค่ 33 ปีเท่านั้นเพื่อที่จะแสดงออกให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ผ่านพระแม่มารีที่ยังคงความเยาว์วัยเป็นสาวบริสุทธิ์เอาไว้นะเป็นเรื่องใหม่ในงานประติมากรรมของอิตาลีที่นำเอาแนวความคิดนี้ใส่ลงไปในรูปปั้นจนได้รับการยกย่องว่าเป็นงานชิ้นสำคัญที่คงความสมดุลระหว่างอุดมคติของความงามในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและทำชาตินิยมในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.  แทงหวยออนไลน์

ตำนานของ Prometheus และ Zeus คู่แค้นตลอดกาล

ตำนานเทพ ตำนานของ Prometheus เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นจากครั้งที่ซุสลบล้างโครนอสผู้เป็นพ่อรวมทั้งขับไสไททันทั้งสิ้นไปอยู่เมืองนรกทาร์ทารัส แต่ก็ยังคงมีไททันที่เหลือรอดเพราะว่าเข้าข้างเหล่าเทพแห่งโอลิมปัส

โน่นเป็นโพรมีธีอุสแล้วก็เอพิมีธีอุส ทั้งสองได้รับคำสั่งให้สร้างสิ่งมีชีวิตบนโลก เอพิมีธีอุสทำการสร้างสัตว์ต่างๆและก็มอบเขี้ยวเล็บให้กับพวกมัน ระหว่างที่โพรมีธีอุสสร้างมนุษย์แล้วก็ให้พวกเขามีรูปร่างที่คล้ายกับเหล่าทวยเทพและก็มอบไฟให้กับพวกเขา

โพรมีธีอุสรักพวกมนุษย์มากยิ่งกว่ารักเทพที่โอลิมปัส ด้วยความรู้สึกหนักใจซุสก็เลยสั่งการให้มนุษย์จะต้องฆ่าสัตว์เพื่อบูชาให้กับเหล่าเทพ

โพรมีธีอุสกลัวว่ามนุษย์จำต้องอดอยากยากจนก็เลยวางแผนสำหรับในการฆ่าหมูป่าแล้วแบ่งเป็นสองกอง กองหนึ่งแอบซ่อนเนื้อเอาไว้ใต้กองเครื่องใน

และก็อีกส่วนแอบซ่อนกระดูกไว้ใต้ชั้นไขมัน ซุสทำการเลือกส่วนที่เป็นกองที่เป็นชั้นไขมัน ซึ่งเมื่อซุสรู้สึกตัวว่าถูกหลอกก็เลยโมโหอย่างมากจึงทำการสั่งห้ามไม่ให้มนุษย์ใช้ไฟอีก

แต่ว่าโพรมีธีอุสก็แอบไปจุดคบไฟจากเตาไฟของเฮเฟตัสแล้วก็นำไฟกลับมาให้มนุษย์อีกรอบ ครั้งนี้ซุสก็เลยลงทัณฑ์ทั้งมนุษย์แล้วก็โพรมีธีอุส

ซุสมอบหมายให้เฮเฟตัสสร้างมนุษย์ผู้หญิงที่มีรูปร่างสวยงามนามว่า แพนโดร่า รวมทั้งมอบกล่องปริศนาให้นางเอาไปที่โลกมนุษย์เพื่อมาเป็นเมียของเอพิมีธีอุส ซึ่งโพรมีธีอุสย้ำเตือนให้นางว่าห้ามเปิดกล่องนี้เด็ดขาด แม้กระนั้นด้วยความอยากรู้ทำให้แพนโดร่าเปิดกล่อง

สิ่งเลวร้ายต่างๆนานาก็เลยออกมาจากกล่องนั้น ทำให้มนุษย์มีจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป มีความมักมาก หลง แล้วก็ทำร้ายกันเอง แม้กระนั้นนางแพนโดร่ารีบปิดกล่องเพราะว่าตระหนกตกใจ ทำให้”ความหมดหวัง” ยังไม่ออกมาจากกล่องนั้น

ก็เลยทำให้มนุษย์ยังคงสามารถดำรงชีวิตอย่างมีหวังถัดไปนั่นเอง นอกจากนั้นซุสยังลงทัณฑ์โพรมีธีอุสโดยการเอาเขาไปล่ามไว้ที่ผาเพื่อที่นกอินทรีบินมารับประทานเครื่องในในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนเครื่องในจะทำการสร้างกลับมาใหม่ วนเวียนไปไม่สิ้นสุด กระทั่งวีรบุรุษเฮอร์คิวลีสมาเจอ เขายิงธนูฆ่านกแล้วก็ช่วยปล่อยโพรมีธีอุสท้ายที่สุด

เนื่องจากว่าความรักที่เกิดต่อมนุษย์โพรมีธีอุสก็เลยโกหกซุส ให้ซุสเอากระดูกไปจากที่จะได้เนื้อที่เป็นอาหารของเหล่ามนุษย์ ถึงแม้เขาจะโดนลงทัณฑ์อย่างไม่ยุติธรรม แม้กระนั้นสุดท้ายแล้วโพรมีธีอุสก็ได้เฮอร์คิวลิส มาช่วยปล่อยเขาจากความทรมานที่ไม่มีความสิ้นสุด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  heng868

ตำนานอาถรรพ์ของวิหารกระดูก ที่เมือง อีโวรา  ประเทศโปรตุเกส 

                สำหรับตำนาน อาถรรพ์ของวิหารกระดูก เรื่องราวความน่ากลัวและอาถรรพ์ของวิหารที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่ในขณะนี้เป็นวิหารเก่าแก่ซึ่งถูกสร้างมาแล้วหลายร้อยปีโดยวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นที่ประเทศโปรตุเกส  ในปัจจุบันวิหารแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศโปรตุเกสต่างก็ต้องพากันแวะเวียนเข้าไปเพื่อชมความแปลกประหลาดพิสดารของวิหารแห่งนี้ด้วยกันทุกคน

        สำหรับวิหารที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้อยู่ที่เมืองอีโวรา  วิหาร  อาถรรพ์ของวิหารกระดูก  แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นว่ากันว่าสร้างตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 15   และที่สร้างความแปลกประหลาดและความน่ากลัวรวมถึงมีเรื่องราวอาถรรพ์เกิดขึ้นกับวิหารแห่งนี้นั่นก็เพราะว่าวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากกระดูกของคน  โดยตำนานบอกว่ามีคนมากกว่า 5 พันคนด้วยการที่เสียชีวิตแล้วถูกนำกระดูกมาสร้างเป็นวิหารแห่งนี้ขึ้นมาดังนั้นวิหารแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่าวิหารกระดูกนั่นเอง

      นอกจากวิหารกระดูกจะมีกระดูกคนตายมากกว่า 5000 คนถูกนำมาสร้างเป็นวิหารแห่งนี้แล้วว่ากันว่าภายในวิหารนั้นยังมีการนำศพของมนุษย์จำนวน 2 คนนำมาแขวนไว้ตรงที่ผนังของวิหารอีกด้านหนึ่งด้วย  ซึ่งตามตำนานได้พูดถึงจบทั้ง 2 ศพที่ถูกนำมาแขวนไว้ในวิหารถึงที่มาที่ไปของศพทั้ง 2 ศพนั้นได้ว่าในสมัยก่อนนั้น  ได้มีครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูก 

         ครอบครัวนี้ผู้เป็นพ่อนั้นจะมีนิสัยดุร้ายโหดเห*้ยมชอบทำร้ายภรรยาของตนเองและเมื่อลูกชายของพวกเขาเติบโตขึ้นมาก็ได้นิสัยของผู้เป็นพ่อไปดังนั้นหญิงสาวคนเดียวซึ่งเป็นคนในครอบครัวจึงได้ถูกทั้งสามีและลูกชายทำร้ายอยู่เป็นประจำทุกวันโดยหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเธอเป็นคนที่นับถือศาสนาคริสต์  อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายจนตายนั้นได้มีการสาปแช่งสามีและลูกของเธอเอาไว้ด้วยคำสาปแช่งของเธอนั้นระบุเอาไว้ว่าเมื่อถึงเวลาที่สามีและลูกของเธอเสียชีวิตขอให้ไม่มีแผ่นดินฝังกลบหน้าได้  

        หลังจากที่หญิงสาวเสียชีวิตได้ไม่นาน ชายทั้งสองคนก็ถึงแก่ความตาย ดังนั้นชาวบ้านจึงช่วยกันนำศพของชายทั้งสองคนไปขุดหลุมฝังศพในสุสานแห่งหนึ่งแต่เกิดเรื่องน่าประหลาดเกิดขึ้นเพราะไม่ว่าชาวบ้านสระขุดหลุมตรงบริเวณไหนก็ตามแต่เมื่อขุดลงไปก็จะเจอกับก้อนหินขนาดใหญ่ทำให้ไม่สามารถขุดเป็นหลุมพอที่จะเอาศพลงไปฝังได้  

       เมื่อชาวบ้านไม่สามารถที่จะฝังศพของชายทั้งสองคนได้ซึ่งได้มีการนำร่างของชายทั้งสองคน  ไปที่วิหารกระดูกหลังจากนั้นก็นำซากศพของชายทั้งสองคนนั้นแขวนไว้ตรงบริเวณผนังของวิหาร  ซึ่งวิหารแห่งนี้เป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระนิกายฟรานซิสกัน  โดยนักบวชภายในวิหารนั้นได้ใช้ซากศพของชายทั้งสองคนในการฝึกสมาธิของนักบวช เพื่อให้นักบวชทุกคนที่ได้เห็นซากศพนั้นเกิดการปลงนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  u12

วิวัฒนาการกับจุดเปลี่ยนต่างๆของการประปา

จุดเปลี่ยนมากมายของลักษณะในการทำงานทำให้เกิดลัทธิต่างๆลักษณะใหม่ๆของงานหรือแม้แต่จะเป็นเทคนิคต่างๆเทคโนโลยีต่างๆมากมาย

ได้ปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงมาในรูปแบบใหม่ๆการเปลี่ยนแปลงถึงวัฒนธรรมโครงสร้างการทำงานและการเปลี่ยนแปลงในเชิงการพัฒนาการทำงานต่างๆดังนี้ ซึ่งเป็นส่วนในการพัฒนาและเชิงลักษณะในการผลักดันถึงรูปแบบในการทำงานสร้างสรรค์ผลงาน

หรือไม่จะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งแสวงหาถึงรูปแบบในการทำงานใหม่ๆต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบในการทำงานในยุคปัจจุบันนี้เองที่ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆเกี่ยวกับลักษณะในการทำงานเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิถีชีวิต

การทำงานที่มีการวิวัฒนาการตลอดเวลาต่างๆเหล่านี้เองซึ่งทำให้งานศิลปะต่างๆที่แสดงอารมณ์ถึงเรื่องราวต่างๆหรือแม้จะเป็นเอกเพรสชั่นถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆของผู้คนมากมาย อย่างไรก็ตามวิวัฒนาการของสิ่งต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะโครงสร้างความเชื่อความคิดศาสนาหรือแม้จะเป็นลักษณะของ ผู้คนที่มีลักษณะในการทำงานที่แตกต่างกันการศึกษาของประวัติศาสตร์ต่างๆทำให้เกิดรูปแบบหรือผลการใหม่ๆเกิดขึ้นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

รูปแบบงานทำงานของเสียงเท่านั้นเองเป็นส่วนสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะในการทำงานของผู้คนที่ใช้วิชาความรู้ต่างๆและการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อต่างๆมากมายนำมาเกิดงานใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้งานประติมากรรมในต่างหรือรูปแบบในการทำงานต่างๆที่บ่งชี้ถึงงานศิลปะที่ซึ่งบรรดาจิตรกรต่างๆ ได้บันดาลถึงรูปแบบงานและการเปลี่ยนแปลงทางด้านความเชื่อต่างๆของตัวเองมากมาย

อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันปรากฏให้เห็นแล้วว่ารูปแบบในการทำงานใหม่ๆเกิดมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงรูปแบบต่างๆนี้เองได้เป็นส่วนที่แสดงออกถึงความเชื่อความคิดต่างๆ แล้วความคิดเห็นของสิ่งเหล่านี้เองซึ่งเป็นส่วนสะท้อนถึงความคิดริเริ่มของผู้คนโดยเฉพาะในปัจจุบันที่ความคิดริเริ่มของการวิวัฒนาการต่างๆของงานศิลปะ ที่ช่อง 7 ละครสมัยใหม่มีความต้องการในการสืบค้นหาวิธีการทำงานมากมาย หรือเป็นความคิดที่ถูกพัฒนาและเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ

เรายังศึกษาประวัติศาสตร์ของผู้คนในอดีตและปัจจุบันรูปแบบและความคิดต่างๆมีอิทธิพลอย่างมากต่อโครงสร้างของผู้คนในปัจจุบัน .. โครงสร้างการรับรู้ของเรื่องราวและความคิดมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามความพิเศษของศิลปะคือคนส่วนใหญ่สามารถแสดงออกถึงรูปแบบโดยการพัฒนาโครงสร้าง วิธีการทำงานของพวกเขามีมนุษย์ยุคหินไม่กี่คนทำสิ่งต่าง ๆ อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รูปแบบของเวลาของมนุษย์มีผลกระทบอย่างมากต่อรูปแบบการทำงานในปัจจุบันไม่ว่าจะมีการพัฒนาโครงสร้างในที่ทำงานหรือไม่ก็ตาม เพื่อพัฒนาและต่อยอดความคิดของเขาเหล่านั้นให้เป็นรูปประธรรมมากยิ่งขึ้น

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    aecasino

ตำนานเขาคิชกุฎคนหลงป่า

โดยข้อมูลตรงนี้เขาได้บอกเอาไว้ว่าย้อนความกลับไปเมื่อปี2317ได้มีนายพราน3คนที่มีนามว่านายติ่ง นายนำ และ นายปริม ได้ขึ้นเขาคิชกุฎแห่งนี้ไปเพื่อที่จะไปหาของป่ามาทำอาหารเป็นกิจวัตรประจำวันของพวกเขาที่เขาต้องทำกันกันอยู่แล้วแต่ได้มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นายพราน3คนนี้เขาได้ขึ้นเขาไปและพวกเขาได้หลงป่าโดยที่พวกเขางงมากว่าเขาหลงได้ยังไง

เนื่องจากว่าพื้นที่ตรงนี้เขาทำมาหากินเขาเดินออกหาของปหลายปีมากและเขาเป็นคนในพื้นที่ด้วยฉะนั้นแล้วเป็นไปได้ยากมากเลยที่เขาจะหลงป่าพวกนายพรานทั้งสามคนก็เลยลองเดินย้อนกลับไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าเขาเดินไปเดินมาก็กลับมายังจุดเดิมเฉยเลย

ซึ่งตรงนี้เขาก็เริ่มสงสัยแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ตรงนั้นเขาเริ่มเหนื่อยเขาก็ได้เดินพักปรากฏว่าได้มีหนึ่งในสามนายพรานนั้นได้ไปนั่งทบที่รอยพระพุทธบาทที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วและหนึ่งในนายพรานคนนั้นเขาก็ได้เจอแหวนนาคที่วางอยู่ตรงรอยพระพุทธบาทด้วย

นอกจากนี้ในเวลานั้นเองนายพรานคนนั้นเขาก็ได้เห็นแหวนนาคตรงนี้เขาก็เลยคิดว่าพื้นที่ตรงนี้น่าจะมีสมบัติก็เลยได้ทำการขุดลงไปเรื่อยๆปรากฏว่าสิ่งที่เขาพบเจอนั่นก็คือรอยเท้ามนุษย์ขนาดยักษ์ที่ววางอยู่ตรงน่าเขานั่นเอง ซึ่งตรงนั้นตามข้อมูลเขาได้บอกกเอาไว้ว่า

นายพรานทั้งสามคนนี้เขาไม่มีความรู้เลยว่าสิ่งนี้คือรอยพระพุทธบาทเขาได้แต่เพียงคิดแค่ว่านี่คือรอยเท้ามนุษย์ขนาดยักษ์และด้วยความเชื่อของคน ณ ปัจจุบันตอนนั้นเขาก็เลยคิดว่านี่น่าจะเป็นรอยเท้าของผู้น่าสูงส่งเขาก็เลยได้ทำการกราบไหว้และได้ขอขมาสิ่งที่พวกเขาได้กระทำลงไปไม่ว่าจะเป้นทั้งการหยิบแหวนนาคขึ้นมา

เพื่อที่จะเก็บไปเป็นสมบัติของตัวเองการขุดพื้นที่ตรงนี้นเพื่อที่จะหาสมบัติเพิ่มเติมพวกเขาทั้งสามคนจึงรีบขอขมาตรงนั้นทันทีเพราะเขาคิดว่าพวกเขาได้ทำผิดไปแล้วปรากฏว่าหลังจากที่พวกเขาได้ขอขมาไปนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงมาอย่างแรงในช่วงกลางวันและพวกเขาก็ได้เดินออกจากจุดนั้นมาหลังจากนั้นพวกเขาก็สามารถเดินออกมาจากวงกตเขาที่พวกเขาหลงได้นั่นเอง

ซึ่งตรงนี้ก็ได้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับตำนานของเขาคิชกุฎนั่นเองและอีกเรื่องก็คือการพบเปรตของพระโมคคัลลานะและพระพุทธเจ้าที่ยังคงเป็นตำนานอยู่จนถึงทุกวันนี้

 

สนับสนุนโดย.    สล็อตฝากขั้นต่ำ 20 บาท

ประวัติของพระพุทธเจ้าหลังจากที่มีการออกบวชแล้ว

          ส่วนใหญ่แล้วเราจะศึกษาประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าช่วงที่พระพุทธเจ้านั้นมีการเกิดและมีการออกบวชแต่เราไม่ค่อยศึกษาหาความรู้ช่วงที่พระองค์นั้นจะต้องมานะบากบั่นหาหนทางแห่งความพ้นทุกข์ให้ได้ว่าพระองค์นั้นต้องไปเจอกับเรื่องราวอะไรบ้างกว่าที่พระพุทธเจ้าจะสามารถพ้นทุกข์และสามารถนำเรื่องราวเหล่านั้นมาเผยแพร่ให้กับประชาชนเพื่อที่จะได้พ้นทุกข์ตามพระองค์ได้ดังนั้นวันนี้บทความนี้จะพูดถึงเรื่องของการที่พระองค์นั้นต้องไปเผชิญกับเรื่องราวต่างๆมากมายหลังจากที่พระองค์ออกบวชแล้วจนท้ายที่สุดแล้วพระองค์ก็สามารถที่จะบำเพ็ญเพียรและสามารถค้นพบได้ในที่สุดนั่นเอง

           หลังจากที่พระพุทธเจ้านั้นได้มีการออกบวชเป็นที่เรียบร้อยแล้วพระองค์ก็ไปตามสำนักต่างๆซึ่งเป็นสำนักที่เน้นในเรื่องของการถือศีลเกี่ยวกับเรื่องของการบวชโดยพระองค์ไปถึง 2 สำนักด้วยกันซึ่งสำนักงานนั้นพระองค์ไปศึกษาหาความรู้ที่สำนักอาฬารดาบสหลังจากที่ศึกษาหาความรู้เล็งเห็นแล้วว่าที่นี่ไม่สามารถที่จะทำให้พระองค์นั้นพ้นทุกข์ได้พระองค์ก็เดินทางไปที่สำนักอุทกดาบส

ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่ก็ไม่สามารถทำให้พระองค์นั้นรู้สึกถึงการพ้นทุกข์ได้เช่นเดียวกันเมื่อพระองค์เล็งเห็นแล้วว่าทั้ง 2 สำนักนี้ไม่สามารถช่วยทำให้พระองค์นั้นหมดสิ้นของการพ้นทุกข์ได้พระองค์จึงได้ขนขวายด้วยตัวของพระองค์เอง

        โดยในขณะนั้นพระองค์ได้เดินทางไปที่แม่น้ำเนรัญชราหลังจากนั้นพระองค์ก็ไปทำการนั่งวิปัสสนาบำเพ็ญกรรมฐานซึ่งขั้นตอนของการวิปัสสนาของพระองค์นั้นเป็นการลองผิดลองถูกโดยครั้งแรกนั้นพระองค์ทั้งการหายใจและพระองค์ก็ยังทรงอดอาหารอีกด้วยและยังมีการทดลองการขบฟันโดยฟันซึ่งวิธีการที่พองทดลองนี้พระองค์ลองทำมานานถึง 6 ปีด้วยกันจนร่างกายของพระองค์นั้นซูบผอมไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงจนในที่สุดพระองค์ก็เห็นแล้วว่าสิ่งที่พระองค์ทดลองทำนั้นมันไม่ได้ผลซึ่งมันไม่ใช่หนทางที่จะทำให้พระองค์นั้นพ้นทุกข์ได้เลยดังนั้นพระองค์ก็เลยเลิกทรมานตนเอง

       และเมื่อพระองค์เลิกทรมานตนเองพร้อมก็หันกลับมากินตามปกติ แต่สิ่งที่ทำให้พระองค์นั้น สามารถดูแจ้งได้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ไม่สามารถทำให้ตัวเองทุกด้านก็เพราะว่าพระองค์ได้ยินเสียงของการดีดพิณซึ่งเป็นท้าวสักกะเทวราชลงมาดีดพิณให้กับพระองค์ฟังพระพุทธเจ้าเมื่อได้ยินเสียงของการดีดพิณแบ่งออกเป็น 3 ช่วงช่วงแรกก็คือการที่มีการดึงสายพิณนั้นตึงจนเกินไปเมื่อดีดไปปุ๊บสายพิณก็ขาดแต่หลังจากนั้นเมื่อสายพิณขาดก็มีการขยายพันธุ์ใหม่โดยสายพิณที่ 2 นี้มีการทำไว้หย่อนยานจนเกินไปเมื่อดีดพิณแล้วทำให้ไม่มีเสียงไพเราะออกมาเลยเพราะสายพิณสัญญาณแต่พอสายเส้นที่ 3 นั้น

เป็นการดึงพี่พอดีเวลาที่ดีดพิณก็จะทำให้ได้ยินเสียงไพเราะดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้มีการเอาวิธีการขึงสายพิณนี้เองมาช่วยในการหาแนวทางในการทำให้ตนเองพ้นทุกข์นั่นก็คือพระองค์นั้นที่จะเดินทางสายกลางโดยพระองค์เจ้าไม่เน้นที่จะทรมานตัวเองมากเกินไปและก็ไม่หย่อนยานในกฎระเบียบมากจนเกินไปนั่นเองซึ่งท้ายที่สุดแล้วพระองค์ก็สามารถบรรลุบำเพ็ญเพียรกิริยาของพระองค์ได้จากการที่พระองค์นั้นได้ฟังเสียงสายพิณทั้งสามสายนี้เอง

 

สนับสนุนโดย  aecasino

รูปแบบและเทคโนโลยีที่ส่งผลงานศิลปะ 

งานศิลปะคือสิ่งที่มีการพัฒนาหรือการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของบุคคลหรือแม้แต่จะเป็นการส่งต่อเรื่องราวต่างๆ ผู้คนให้ความสนใจในการเข้าถึงเรื่องราวในการพัฒนาโครงสร้างหรือ โครงสร้างการทำงานศิลปะก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลารูปแบบเทคโนโลยีต่างๆ Social Media

หรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนาการทำงานก็มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทุกคนให้ความสนใจในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างความเป็นอยู่หรือไม่จะเป็นการอยู่อาศัยของผู้คนในยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาตลอดเวลาการปรับปรุงเทคโนโลยีต่างๆไม่ว่าจะเป็น Social Media อินเตอร์เน็ตโครงสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ

มีการเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจในการสร้างสรรค์ผลงานหรือแม้แต่จะเป็นในส่วนของเทคโนโลยีในการพัฒนาโครงสร้างการทำงานต่างด้าว งานศิลปะมีรูปแบบที่แตกต่างไปไม่ว่าจะเป็นวีดีโอภาพวาดภาพเขียนภาพถ่ายหรือแม้แต่จะเป็น เป็นงานเขียนวรรณกรรมต่างๆ

ก็เป็นงานศิลปะทั้งสิ้นโดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน จึงมีการเผยแพร่งานศิลปะที่เพิ่มมากขึ้นการพัฒนาหรือแม้จะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างความเป็นอยู่ของผู้คนที่มีการรับรู้เกี่ยวกับสุนทรียภาพเรื่องราวต่างๆมีการพัฒนาส่งต่อเรื่องราวอยู่ตลอดเวลา ผู้คนให้ความสนใจในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างความเป็นอยู่ความรู้หรือแม้แต่จะเป็นการปรับปรุงรูปแบบให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามนี้จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานหรือไม่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่ทำให้งานศิลปะมีการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้นและการปรับปรุงต่างๆเหล่านี้ช่วยผู้คนมีการปรับปรุงโครงสร้างความเป็นอยู่ทางด้านการเข้าถึงงานศิลปะ

หรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความรับรู้ถึงเรื่องราวต่างๆที่มีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มมากขึ้น อะไรก็ทำงานศิลปะต่างๆมีการพัฒนาการปรับปรุงหรือแม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างต่างๆที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบันเราต้องยอมรับว่าระบบเทคโนโลยีต่างๆที่มีการพัฒนาหรือมีการเปลี่ยนแปลงช่วยผู้คนสามารถเข้าถึงรูปแบบงานศิลปะต่างๆได้อยู่ตลอดเวลา

เปลี่ยนไปของรูปแบบการเข้าถึงน่าจะว่าต่างๆเหล่านี้ช่วยงานศิลปะการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น ในส่วนของการเข้าถึงโครงการหรือแม้แต่จะเป็นโครงสร้างในความเป็นอยู่ของผู้คนก็มีการพัฒนาและมีการปรับปรุงที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเข้าใจของรูปแบบการทำงานต่างๆเหล่านี้

ช่วยให้งานศิลปะเป็นการพัฒนาโครงสร้างความเป็นอยู่รูปแบบในการติดต่อสื่อสารหรือแม้แต่จะเป็นการส่งต่อองค์ความรู้ต่างๆก็มีการพัฒนาและมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงการทำงานต่างๆเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึง รูปแบบงานศิลปะใหม่ๆ 

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี